เข้าสู่ระบบ(Log in)
ค้นหา
Latest topics
Top posters
InDyPG053 (59) | ||||
Yimkung (39) | ||||
ลิงน้อยชอบกินกล้วย (32) | ||||
TitiV (27) | ||||
nut1212a (21) | ||||
LordHiOSiha (18) | ||||
Admin (16) | ||||
kanet41590 (6) | ||||
FoNgnOiiiz (5) | ||||
original (5) |
ผู้ที่กำลัง online
ผู้ที่ online ทั้งหมด 9 คน :: ลงทะเบียน 0 คน, ซ่อน 0 คน และ 9 ผู้มาเยือน (ไม่มี)
มีผู้ใช้ online พร้อมกันสูงสุด 125 คน เมื่อ Wed Sep 15, 2021 1:06 pm
"ปีศาจแดง" กับจ่าฝูงครั้งแรกของฤดูกาล !!!!
3 posters
หน้า 1 จาก 1
"ปีศาจแดง" กับจ่าฝูงครั้งแรกของฤดูกาล !!!!
คำว่า "แน่นอน" ไม่เคยปรากฎอยู่ในพจนานุกรมของโลกฟุตบอล..
บางครั้งฟ้าก็อาจผ่าตอนกลางวันแสกๆ หรือบางครั้งหนูตัวเล็กๆก็อาจล้มราชสีห์ได้เหมือนกัน..
โดยเฉพาะราชสีห์ที่องอาจพกทั้งความเขี้ยว , ความร้อนแรง และดวงอยู่ในมืออย่างเชลซี..
ไม่ว่าจะคิดกี่ตลบ.. ภาพที่วีแกนจะมีปัญญาคว้าสามแต้มจากทีมอย่างเชลซีแทบไม่มีอยู่ในหัว..
ด้วยสถิติความเป็น "ลูกไล่" ของบิ๊กโฟร์มาตลอดสี่ปี.. แม้กระทั่งแต้มเดียวยังไม่มีให้เห็น..
หรือไม่ต้องย้อนกลับไปไหนไกล.. เอาแค่สถิติการเจอสี่ทีมใหญ่ของ "เดอะ ลาติกส์" ก่อนเกมกับสิงห์บลูส์ ก็อ่วมอรทัยแล้ว..
โดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเหยียบหัวถึง ดีดับบลิว สเตเดี้ยมถึง 0-5.. และถูกอาร์เซน่อลขยี้เละ 0-4...
แวบแรกที่ผมเห็นโปรแกรมในสัปดาห์นี้.. ประโยคแรกที่เด้งออกมาจากหัว "มันจะโดนกี่ลูกว่ะเนี่ย..??"
ใครจะไปเชื่อ.. ว่าการปลดแอกครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของวีแกน จะมาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เชลซีพีคที่สุด.. !!
หนังเหนียวที่สุด.. จะเล่นแย่ยังไงก็ได้ประตูท้ายเกมตลอด.. มีดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , แฟร้งค์ แลมพาร์ด หรือนิโกล่าส์ อเนลก้าแวะเวียนกันมาเสนอตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่ทุกครั้งไป..
แท็กติกของ "อันเช่" ในแต่ละนัดเขี้ยวจริงๆ.. ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงทำทีมมิลานได้แข็งแกร่งนัก.. แน่นดุจภูผาหิน.. ชนิดเกมรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถระแคะระคายอะไรได้ในการเจอกันในเกมยุโรปสองปีก่อน..
พินิจแล้วก็ใคร่ต้องย้อนไปถึงยุคของโจเซ่ มูรินโญ่ แต่แท็กติกของอันเชล็อตติมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่า..
อย่างแรกเลยคือระบบ.. กุนซืออิตาเลียนมีแท็กติกที่แตกต่างจากมูรินโญ่.. ระบบเหลี่ยมเพชรของเขามีอะไรมากกว่าการถ่ายบอลไปที่ปีกสองข้าง.. มีกองหน้าตัวเป้า.. พร้อมกับกลางสามคนที่ไล่เข้าหาบอลอย่างหิวกระหาย..
กลยุทธ์เหลี่ยมเพชร.. การเซทเกมต้องเกิดขึ้นอย่างละมุนละไม.. เริ่มตั้งแต่ตรงกลางสนาม.. เรื่อยมาจนถึงฟูลแบ็ค.. มาถึงตัวเพลย์เมคเกอร์ ก่อนจบที่กองหน้าทั้งสองตัว..
การมาเยือนของสิงห์บลูส์ในชุดดำทะมึนในเกมนี้.. จึงทำให้แฟนบอลคิดเลยไปถึงอีก 3 แต้ม ที่จะทิ้งหนีเหล่าเร้ด เดวิลส์ไปอีก..
บอกตรงๆครับ.. ตอนนั้นไม่ได้คาดหวังอะไรเลย.. คิดไว้ว่าจะเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุด ไล่จี้เชลซีสุดชีวิตจะหาไม่แค่นั้นพอ..
บริทานเนีย สเตเดี้ยม คือสนามแห่งมนต์ขลัง.. น้อยทีมนักที่จะออกไปพร้อมกับสามคะแนนเต็ม ไม่เว้นแม้แต่บิ๊กโฟร์..
เพราะจนถึงตอนนี้ทีมอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ก็ยังรอคอยการชำระสะสางที่สนามแห่งนี้.. ปีที่แล้วเพราะผลสกอร์ 0-0 ที่นี่ ทำให้พวกเขาชวดแชมป์พรีเมียร์ลีกที่รอคอย..
อาร์เซน่อลก็ไม่แพ้กัน.. เคยบุกมาลื่นหัวฟาดพื้นที่นี่ด้วยสองลูกทุ่มของรอรี่ ดีแลป.. สร้างความสะพรึงให้กับอีก 18 ทีมในการระแวดระวังลูกทุ่มกันมากขึ้น..
แต่เมื่อมองไปที่สถิติของ "ปีศาจแดง" ในการดวลกับช่างปั้นหม้อยังคงดีอยู่.. ปีที่แล้วพวกเขาบุกไปควักสามคะแนนจากประตูท้ายเกมของคาร์ลอส เตเวซ.. แม้จะหืดจับ แต่อย่างน้อยสามแต้มก็ถูกเก็บเข้ากระเป๋า..
ปีนี้ระดับความยากเย็นของยูไนเต็ดไม่ต่างไปจากเดิม.. ครึ่งแรกหม้อลงยันต์ทีมนี้จัดระเบียบเกมรับด้วยการคุมโซนซ้อนกันแน่น.. กองกลางสองคนคอยดักลูกทะลุช่อง ส่วนแผงหลังเข้าถึงตัวตลอด..
มองไปที่ปีกสองข้างก็ยังไร้ทีเด็ดทีขาด.. นานี่ยังรนเกินไปและขาดความแม่นยำในการตัดสินใจ.. ข้ามไปยังอีกฟากของสนาม อันโตนิโอ วาเลนเซีย ก็ยังเลื้อยไม่ออก แถมลูกโยนก็ยังไม่เข้าเป้า..
การหาทางเจาะดูยากเย็น.. เมื่อบวกกับสไตล์แอนตี้ฟุตบอลของเจ้าบ้าน ทำให้แอบคิดไปว่า "ปีศาจแดง" อาจเป็นอีกทีมก็ได้ที่จะมาถูกควักแต้มที่สนามแห่งนี้..
แต่เป็นเพราะกระทาชายเปี่ยมปัญญาอย่างเฟอร์กี้.. ที่ทำให้ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เจ้าบ้านคาดการณ์เอาไว้.. และแน่นอน.. มันเป็นการ "ซ้อนแผน" โทนี่ พูลิสที่ได้ผล..
นานี่.. มีความสดและเคลื่อนที่ได้เร็ว อย่างไรก็ตามความลอกแลกและรนทำให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามดักทางได้ง่าย.. แต่ไม่ใช่กับไรอัน กิ๊กส์ ที่ใช้ไหวพริบอย่างเป็นประโยชน์กว่า..
เป็นหมากที่วางอย่างได้ผล.. ปีกวัยดึกรู้จักไลน์และหาพื้นที่วิ่งได้ดีเหลือเกิน.. และเพียงแค่จังหวะที่ฮูธพลาดหุบเข้ากลางไปนิดเดียว.. แต่นั่นคือการพลาดอย่างมหันต์ครั้งเดียวของเกม ที่พวกสโต๊คปลิดชีพตัวเอง..
มันคือช่องโหว่เพียงเล็กน้อยของหม้อใบโต.. แต่ยูไนเต็ดสามารถหามันเจอและพลิกมันให้เป็นประตูที่ต้องการได้ในที่สุด..
บางครั้ง ธรรมชาติของปุถุชนอย่างมักพยายามจะมองหาสิ่งใหม่ที่ยั่วใจ.. ดูเร้าอารมณ์มากกว่าสิ่งเก่าก่อน..
แสงจรัสจ้าเพียงชั่วคืนของคริสติอาโน่ โรนัลโด้.. ทำให้เราลืมดวงจันทร์ขาวผ่อง ที่ให้ความสุขและความสว่างกับยูไนเต็ดมาโดยตลอด..
คงไม่มีอะไรมาเทียบชั้นกับสิ่งที่ "กิ๊กซี่" ทำเอาไว้ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา.. เช่นเดียวกับการมองเกมที่เขายังอ่านขาดเหมือนเคย.. และที่สำคัญที่สุด มันหมายถึงสามแต้ม..
สามแต้มคือสิ่งที่คาด.. แต่สิ่งที่ไม่กล้าคิดแม้ซักแอะว่ามันจะมาพร้อมกันนั่นคือ "ตำแหน่งจ่าฝูง"..
หลายฝ่ายบอกว่าเพราะเชลซีชนะมาจนเคยถึง 6 นัดติด ปัญหาเช่นนี้เลยเกิดขึ้น.. แต่นอกจากฟอร์มในสนามที่แผ่วลงไปของแนวรบสิงห์บลูส์.. ยังมีความ "โชคร้าย" แฝงเข้าไปด้วย..
ท่ามกลางความยุ่งเหยิงในขณะที่ผมทำผลบอลคู่สโต๊คกับยูไนเต็ด ลำโพงคอมพิวเตอร์ของผมก็ลั่นตัวเองขึ้นมาเป็นสัญญาณเตือน พร้อมกับข้อความด่วนจากเพื่อนทาง msn..
"เฮ่ย.. เช็กโดนแดง เชลซีเสียโทษ"..
บางครั้ง.. นี่คือความโหดเหี้ยมและไร้ความเมตตาของโลกฟุตบอล.. เพียงแค่วินาทีเดียว.. กับการกระทำเพียงแค่ครั้งเดียว.. อาจเปลี่ยนรูปเกมทั้งหมดได้สิ้นเชิง..
ก่อนหน้าที่ปีเตอร์ เช็กจะโดนใบแดงไม่กี่นาที.. ฝูงสิงโตแห่งเมืองหลวงเพิ่งพลิกสถานการณ์กลับมาตามตีเสมอได้เหมือนกับที่เขาเคยทำทุกครั้ง.. เป็นความผิดพลาดของคริส เคิร์กแลนด์ และบรุษหนุ่มผู้ดุดันอย่างดร็อกบา ก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป..
หากไม่มีเหตุการณ์อับโชคเกิดขึ้นกับเช็ก.. ผมเชื่อว่ารูปเกมจะกลับมาเป็นเหมือนกับ 6 นัดแรกที่ผ่านมา.. คือเชลซีจะกลับมาแซงเอาชนะวีแกนได้เหมือนเคย อาจมีสามถึงสี่ลูกคอยท่าอยู่ด้วยซ้ำ..
แต่เมื่อเช็กถูกไล่ออก.. หนึ่งผู้เสียสละจะต้องยอมเดินออกจากสนามเพื่ออิลาริโอ นายด่านสำรอง.. และนั่นหมายถึงแท็กติกที่เสียกระบวน.. แผนแก้เกมที่ตกลงกันไว้ในช่วงครึ่งแรกล่มไม่เป็นท่า..
และต้องขอชม "เดอะ ลาติกส์" ด้วยที่วันนี้ลงสู่สนามด้วยจิตใจนักรบ.. แม้หลายฝ่ายค่อนขอดว่าเป็นบันไดให้สี่มหาอำนาจมาโดยตลอด แต่เมื่อคืนวันเสาร์พวกเขาเล่นเต็มที่เพื่อลบคำสบประมาท.. และในที่สุดก็ได้รับรางวัลที่พวกเขารอคอย..
เกมรับที่หย่อนยานเสียกันอุตลุดถูกขันเกลียวให้แน่นยิ่งขึ้น จุดสำคัญคือใจและความมุ่งมั่น ซึ่งเมื่อบวกกับอาการฟอร์มตกทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจของเดอะ บลูส์ แล้ว.. ทุกอย่างก็ออกมาอย่างที่เห็น..
เชลซี เสียสามแต้มสำคัญที่ดีดับบลิว สเตเดี้ยม.. ผกผันกับสถานการณ์ของยูไนเต็ด ที่เอาตัวรอดจากบ้านหม้อได้..
มาตรฐานของพรีเมียร์ลีกสูงมากขึ้นจนน่ากลัว.. การสะดุดเพียงก้าวเดียวของเชลซีทำให้พวกเขาเสียบัลลังก์แห่งผู้นำ ทั้งๆที่ชนะรวดอย่างยอดเยี่ยมมาได้ตลอด..
ยูไนเต็ดก็เช่นกัน.. พวกเขาคงรู้ดีว่าทั้งลิเวอร์พูล และอาร์เซน่อล ต่างทำคะแนนไล่จี้บี้มาติดๆ ส่วนเชลซีเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าคงไม่สะดุดบ่อยครั้งนัก..
ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตาม.. ควรพึงระลึกไว้ทุกขณะจิตไว้พลาดไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว..
แม้แต่ตำแหน่งจ่าฝูงของแชมป์เก่า.. ลมเพียงแค่เบาๆ ก็อาจพัดพวกเขาให้หลุดได้ทุกเมื่อ !!!
เจี๊ยบ เคเอฟซี
ปล.ขอบคุณรูปภาพสวยๆจากพี่เบน ฟรีคิกครับ
เว็บ www.soccersuck.com สำหรับคนรักฟุตบอล
บางครั้งฟ้าก็อาจผ่าตอนกลางวันแสกๆ หรือบางครั้งหนูตัวเล็กๆก็อาจล้มราชสีห์ได้เหมือนกัน..
โดยเฉพาะราชสีห์ที่องอาจพกทั้งความเขี้ยว , ความร้อนแรง และดวงอยู่ในมืออย่างเชลซี..
ไม่ว่าจะคิดกี่ตลบ.. ภาพที่วีแกนจะมีปัญญาคว้าสามแต้มจากทีมอย่างเชลซีแทบไม่มีอยู่ในหัว..
ด้วยสถิติความเป็น "ลูกไล่" ของบิ๊กโฟร์มาตลอดสี่ปี.. แม้กระทั่งแต้มเดียวยังไม่มีให้เห็น..
หรือไม่ต้องย้อนกลับไปไหนไกล.. เอาแค่สถิติการเจอสี่ทีมใหญ่ของ "เดอะ ลาติกส์" ก่อนเกมกับสิงห์บลูส์ ก็อ่วมอรทัยแล้ว..
โดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเหยียบหัวถึง ดีดับบลิว สเตเดี้ยมถึง 0-5.. และถูกอาร์เซน่อลขยี้เละ 0-4...
แวบแรกที่ผมเห็นโปรแกรมในสัปดาห์นี้.. ประโยคแรกที่เด้งออกมาจากหัว "มันจะโดนกี่ลูกว่ะเนี่ย..??"
ใครจะไปเชื่อ.. ว่าการปลดแอกครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของวีแกน จะมาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เชลซีพีคที่สุด.. !!
หนังเหนียวที่สุด.. จะเล่นแย่ยังไงก็ได้ประตูท้ายเกมตลอด.. มีดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , แฟร้งค์ แลมพาร์ด หรือนิโกล่าส์ อเนลก้าแวะเวียนกันมาเสนอตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่ทุกครั้งไป..
แท็กติกของ "อันเช่" ในแต่ละนัดเขี้ยวจริงๆ.. ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงทำทีมมิลานได้แข็งแกร่งนัก.. แน่นดุจภูผาหิน.. ชนิดเกมรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถระแคะระคายอะไรได้ในการเจอกันในเกมยุโรปสองปีก่อน..
พินิจแล้วก็ใคร่ต้องย้อนไปถึงยุคของโจเซ่ มูรินโญ่ แต่แท็กติกของอันเชล็อตติมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่า..
อย่างแรกเลยคือระบบ.. กุนซืออิตาเลียนมีแท็กติกที่แตกต่างจากมูรินโญ่.. ระบบเหลี่ยมเพชรของเขามีอะไรมากกว่าการถ่ายบอลไปที่ปีกสองข้าง.. มีกองหน้าตัวเป้า.. พร้อมกับกลางสามคนที่ไล่เข้าหาบอลอย่างหิวกระหาย..
กลยุทธ์เหลี่ยมเพชร.. การเซทเกมต้องเกิดขึ้นอย่างละมุนละไม.. เริ่มตั้งแต่ตรงกลางสนาม.. เรื่อยมาจนถึงฟูลแบ็ค.. มาถึงตัวเพลย์เมคเกอร์ ก่อนจบที่กองหน้าทั้งสองตัว..
การมาเยือนของสิงห์บลูส์ในชุดดำทะมึนในเกมนี้.. จึงทำให้แฟนบอลคิดเลยไปถึงอีก 3 แต้ม ที่จะทิ้งหนีเหล่าเร้ด เดวิลส์ไปอีก..
บอกตรงๆครับ.. ตอนนั้นไม่ได้คาดหวังอะไรเลย.. คิดไว้ว่าจะเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุด ไล่จี้เชลซีสุดชีวิตจะหาไม่แค่นั้นพอ..
บริทานเนีย สเตเดี้ยม คือสนามแห่งมนต์ขลัง.. น้อยทีมนักที่จะออกไปพร้อมกับสามคะแนนเต็ม ไม่เว้นแม้แต่บิ๊กโฟร์..
เพราะจนถึงตอนนี้ทีมอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ก็ยังรอคอยการชำระสะสางที่สนามแห่งนี้.. ปีที่แล้วเพราะผลสกอร์ 0-0 ที่นี่ ทำให้พวกเขาชวดแชมป์พรีเมียร์ลีกที่รอคอย..
อาร์เซน่อลก็ไม่แพ้กัน.. เคยบุกมาลื่นหัวฟาดพื้นที่นี่ด้วยสองลูกทุ่มของรอรี่ ดีแลป.. สร้างความสะพรึงให้กับอีก 18 ทีมในการระแวดระวังลูกทุ่มกันมากขึ้น..
แต่เมื่อมองไปที่สถิติของ "ปีศาจแดง" ในการดวลกับช่างปั้นหม้อยังคงดีอยู่.. ปีที่แล้วพวกเขาบุกไปควักสามคะแนนจากประตูท้ายเกมของคาร์ลอส เตเวซ.. แม้จะหืดจับ แต่อย่างน้อยสามแต้มก็ถูกเก็บเข้ากระเป๋า..
ปีนี้ระดับความยากเย็นของยูไนเต็ดไม่ต่างไปจากเดิม.. ครึ่งแรกหม้อลงยันต์ทีมนี้จัดระเบียบเกมรับด้วยการคุมโซนซ้อนกันแน่น.. กองกลางสองคนคอยดักลูกทะลุช่อง ส่วนแผงหลังเข้าถึงตัวตลอด..
มองไปที่ปีกสองข้างก็ยังไร้ทีเด็ดทีขาด.. นานี่ยังรนเกินไปและขาดความแม่นยำในการตัดสินใจ.. ข้ามไปยังอีกฟากของสนาม อันโตนิโอ วาเลนเซีย ก็ยังเลื้อยไม่ออก แถมลูกโยนก็ยังไม่เข้าเป้า..
การหาทางเจาะดูยากเย็น.. เมื่อบวกกับสไตล์แอนตี้ฟุตบอลของเจ้าบ้าน ทำให้แอบคิดไปว่า "ปีศาจแดง" อาจเป็นอีกทีมก็ได้ที่จะมาถูกควักแต้มที่สนามแห่งนี้..
แต่เป็นเพราะกระทาชายเปี่ยมปัญญาอย่างเฟอร์กี้.. ที่ทำให้ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เจ้าบ้านคาดการณ์เอาไว้.. และแน่นอน.. มันเป็นการ "ซ้อนแผน" โทนี่ พูลิสที่ได้ผล..
นานี่.. มีความสดและเคลื่อนที่ได้เร็ว อย่างไรก็ตามความลอกแลกและรนทำให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามดักทางได้ง่าย.. แต่ไม่ใช่กับไรอัน กิ๊กส์ ที่ใช้ไหวพริบอย่างเป็นประโยชน์กว่า..
เป็นหมากที่วางอย่างได้ผล.. ปีกวัยดึกรู้จักไลน์และหาพื้นที่วิ่งได้ดีเหลือเกิน.. และเพียงแค่จังหวะที่ฮูธพลาดหุบเข้ากลางไปนิดเดียว.. แต่นั่นคือการพลาดอย่างมหันต์ครั้งเดียวของเกม ที่พวกสโต๊คปลิดชีพตัวเอง..
มันคือช่องโหว่เพียงเล็กน้อยของหม้อใบโต.. แต่ยูไนเต็ดสามารถหามันเจอและพลิกมันให้เป็นประตูที่ต้องการได้ในที่สุด..
บางครั้ง ธรรมชาติของปุถุชนอย่างมักพยายามจะมองหาสิ่งใหม่ที่ยั่วใจ.. ดูเร้าอารมณ์มากกว่าสิ่งเก่าก่อน..
แสงจรัสจ้าเพียงชั่วคืนของคริสติอาโน่ โรนัลโด้.. ทำให้เราลืมดวงจันทร์ขาวผ่อง ที่ให้ความสุขและความสว่างกับยูไนเต็ดมาโดยตลอด..
คงไม่มีอะไรมาเทียบชั้นกับสิ่งที่ "กิ๊กซี่" ทำเอาไว้ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา.. เช่นเดียวกับการมองเกมที่เขายังอ่านขาดเหมือนเคย.. และที่สำคัญที่สุด มันหมายถึงสามแต้ม..
สามแต้มคือสิ่งที่คาด.. แต่สิ่งที่ไม่กล้าคิดแม้ซักแอะว่ามันจะมาพร้อมกันนั่นคือ "ตำแหน่งจ่าฝูง"..
หลายฝ่ายบอกว่าเพราะเชลซีชนะมาจนเคยถึง 6 นัดติด ปัญหาเช่นนี้เลยเกิดขึ้น.. แต่นอกจากฟอร์มในสนามที่แผ่วลงไปของแนวรบสิงห์บลูส์.. ยังมีความ "โชคร้าย" แฝงเข้าไปด้วย..
ท่ามกลางความยุ่งเหยิงในขณะที่ผมทำผลบอลคู่สโต๊คกับยูไนเต็ด ลำโพงคอมพิวเตอร์ของผมก็ลั่นตัวเองขึ้นมาเป็นสัญญาณเตือน พร้อมกับข้อความด่วนจากเพื่อนทาง msn..
"เฮ่ย.. เช็กโดนแดง เชลซีเสียโทษ"..
บางครั้ง.. นี่คือความโหดเหี้ยมและไร้ความเมตตาของโลกฟุตบอล.. เพียงแค่วินาทีเดียว.. กับการกระทำเพียงแค่ครั้งเดียว.. อาจเปลี่ยนรูปเกมทั้งหมดได้สิ้นเชิง..
ก่อนหน้าที่ปีเตอร์ เช็กจะโดนใบแดงไม่กี่นาที.. ฝูงสิงโตแห่งเมืองหลวงเพิ่งพลิกสถานการณ์กลับมาตามตีเสมอได้เหมือนกับที่เขาเคยทำทุกครั้ง.. เป็นความผิดพลาดของคริส เคิร์กแลนด์ และบรุษหนุ่มผู้ดุดันอย่างดร็อกบา ก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป..
หากไม่มีเหตุการณ์อับโชคเกิดขึ้นกับเช็ก.. ผมเชื่อว่ารูปเกมจะกลับมาเป็นเหมือนกับ 6 นัดแรกที่ผ่านมา.. คือเชลซีจะกลับมาแซงเอาชนะวีแกนได้เหมือนเคย อาจมีสามถึงสี่ลูกคอยท่าอยู่ด้วยซ้ำ..
แต่เมื่อเช็กถูกไล่ออก.. หนึ่งผู้เสียสละจะต้องยอมเดินออกจากสนามเพื่ออิลาริโอ นายด่านสำรอง.. และนั่นหมายถึงแท็กติกที่เสียกระบวน.. แผนแก้เกมที่ตกลงกันไว้ในช่วงครึ่งแรกล่มไม่เป็นท่า..
และต้องขอชม "เดอะ ลาติกส์" ด้วยที่วันนี้ลงสู่สนามด้วยจิตใจนักรบ.. แม้หลายฝ่ายค่อนขอดว่าเป็นบันไดให้สี่มหาอำนาจมาโดยตลอด แต่เมื่อคืนวันเสาร์พวกเขาเล่นเต็มที่เพื่อลบคำสบประมาท.. และในที่สุดก็ได้รับรางวัลที่พวกเขารอคอย..
เกมรับที่หย่อนยานเสียกันอุตลุดถูกขันเกลียวให้แน่นยิ่งขึ้น จุดสำคัญคือใจและความมุ่งมั่น ซึ่งเมื่อบวกกับอาการฟอร์มตกทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจของเดอะ บลูส์ แล้ว.. ทุกอย่างก็ออกมาอย่างที่เห็น..
เชลซี เสียสามแต้มสำคัญที่ดีดับบลิว สเตเดี้ยม.. ผกผันกับสถานการณ์ของยูไนเต็ด ที่เอาตัวรอดจากบ้านหม้อได้..
มาตรฐานของพรีเมียร์ลีกสูงมากขึ้นจนน่ากลัว.. การสะดุดเพียงก้าวเดียวของเชลซีทำให้พวกเขาเสียบัลลังก์แห่งผู้นำ ทั้งๆที่ชนะรวดอย่างยอดเยี่ยมมาได้ตลอด..
ยูไนเต็ดก็เช่นกัน.. พวกเขาคงรู้ดีว่าทั้งลิเวอร์พูล และอาร์เซน่อล ต่างทำคะแนนไล่จี้บี้มาติดๆ ส่วนเชลซีเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าคงไม่สะดุดบ่อยครั้งนัก..
ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตาม.. ควรพึงระลึกไว้ทุกขณะจิตไว้พลาดไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว..
แม้แต่ตำแหน่งจ่าฝูงของแชมป์เก่า.. ลมเพียงแค่เบาๆ ก็อาจพัดพวกเขาให้หลุดได้ทุกเมื่อ !!!
เจี๊ยบ เคเอฟซี
ปล.ขอบคุณรูปภาพสวยๆจากพี่เบน ฟรีคิกครับ
เว็บ www.soccersuck.com สำหรับคนรักฟุตบอล
milan 30- นักเรียนหลังห้อง
- ชื่อเล่น : เพชร
จำนวนข้อความ : 4
คะแนนความดี : 0
Join date : 27/09/2009
Re: "ปีศาจแดง" กับจ่าฝูงครั้งแรกของฤดูกาล !!!!
และจะเป็นจ่าฝูงแบบนี้ไปตลอด ฤดู กาล
ฟันธง
ฟันธง
ลิงน้อยชอบกินกล้วย- Moderator
- ชื่อเล่น : Plan
จำนวนข้อความ : 32
คะแนนความดี : 1
Join date : 27/09/2009
Re: "ปีศาจแดง" กับจ่าฝูงครั้งแรกของฤดูกาล !!!!
ไอ่กาก
เอามาจากเวปว่ะ
แน่จิงแต่งเองสิวะ
เอามาจากเวปว่ะ
แน่จิงแต่งเองสิวะ
kanet41590- นักเรียนหลังห้อง
- ชื่อเล่น : เนย_คับ
จำนวนข้อความ : 6
คะแนนความดี : 0
Join date : 27/09/2009
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Tue Oct 13, 2009 11:37 pm by Yimkung
» มาแจกๆๆ hi กัน เข้ามาๆๆๆๆ
Mon Oct 12, 2009 9:51 pm by หว๊าน...เย็น
» คุณอาจจะไม่เคยรุ้ว่า(จุด จุด จุด)
Mon Oct 12, 2009 12:41 am by หว๊าน...เย็น
» วิชานินจา (มีในโลก)
Mon Oct 12, 2009 12:38 am by หว๊าน...เย็น
» อะไรที่เรียกว่า....กล้อง
Sun Oct 04, 2009 10:50 pm by InDyPG053
» คอสเพลย รีบอนคร๊าบบ เหมือนมัก ๆ ; )
Sun Oct 04, 2009 9:26 pm by nut1212a
» มาเลี้ยงสัตว์กันเถอะครับ (ห้องเพาะไข่)
Sun Oct 04, 2009 7:29 pm by InDyPG053
» สอนวิธีเลี้ยงสัตว์คร๊าบบ
Sun Oct 04, 2009 7:12 pm by LordHiOSiha
» เกม !! ข้างบนถามข้างล่างตอบค้าบบ ; )
Sun Oct 04, 2009 7:09 pm by Yimkung